การบริจาคเลือดเป็นการกระทำที่เสียสละและเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นอย่างมาก เลือดเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรักษาชีวิตและการผ่าตัดหลายประเภท ในแต่ละปีมีผู้คนจำนวนมากต้องพึ่งพาการบริจาคเลือดเพื่อมีชีวิตรอด
การบริจาคเลือดสามารถทำได้โดยผู้ที่มีอายุระหว่าง 17-65 ปี น้ำหนักมากกว่า 45 กิโลกรัม และสุขภาพแข็งแรง กระบวนการบริจาคเลือดใช้เวลาประมาณ 30 นาที และผู้ที่บริจาคเลือดจะได้รับอาหารและเครื่องดื่มฟรี
ประโยชน์ของการบริจาคเลือด
การบริจาคเลือดมีประโยชน์หลายประการ ดังนี้
- ช่วยชีวิตผู้อื่น
- ช่วยให้ผู้ป่วยรอดพ้นจากการผ่าตัดหรือการรักษาพยาบาลที่จำเป็น
- ช่วยให้แพทย์และพยาบาลมีเลือดสำรองไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน
- เป็นการทดสอบสุขภาพฟรี
- ช่วยให้ผู้บริจาครู้สึกดีกับตัวเอง
ขั้นตอนการบริจาคเลือด
กระบวนการบริจาคเลือดมีดังนี้
- ลงทะเบียนและตอบคำถามเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์
- พักผ่อนบนเก้าอี้และรับการตรวจเลือด
- เจ้าหน้าที่จะเจาะเลือดจากเส้นเลือดที่บริเวณแขน
- เลือดจะถูกเก็บรวบรวมในถุงพลาสติก
- ผู้บริจาคจะได้รับอาหารและเครื่องดื่มฟรี
ข้อควรปฏิบัติก่อนและหลังบริจาคเลือด
ผู้บริจาคควรปฏิบัติตามข้อควรปฏิบัติต่อไปนี้ก่อนและหลังบริจาคเลือด
ก่อนบริจาคเลือด
- รับประทานอาหารและดื่มน้ำให้เพียงพอ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงการบริจาคเลือดหากมีไข้ เป็นหวัด หรือมีการติดเชื้อ
หลังบริจาคเลือด
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงการยกของหนัก
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง
- หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดหัว เวียนศีรษะ หรือมีจุดเลือดออก ควรพบแพทย์ทันที
การบริจาคเลือดในประเทศไทย
ในประเทศไทย การบริจาคเลือดสามารถทำได้ที่โรงพยาบาล คลินิก และศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ผู้ที่สนใจบริจาคเลือดสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โรงพยาบาลหรือศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ
การบริจาคเลือดเป็นการกระทำที่เสียสละและเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นอย่างมาก ผู้ที่บริจาคเลือดสามารถช่วยชีวิตผู้อื่นได้หลายชีวิต การบริจาคเลือดเป็นวิธีง่ายๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้อื่นให้ดีขึ้น